บุหรี่ไฟฟ้า ข้อดีข้อเสียอย่างไร สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อใช้เองหรือซื้อให้ใคร

ข้อดี

1.  สารพิษน้อยกว่าบุหรี่ เพราะไม่มีพวกน้ำมันดิน คาร์บอนมอนนอกไซด์ ไซยาไนดื ฯลฯ มีแต่นิโคติน ทำให้ไม่มีอาการขาดนิโคติน

2.  ยังใช้วิธีการสูบควันเหมือนบุหรี่ จึงเป็นการช่วยให้ไม่รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปเหมือนการหักดิบ

3.  ค่าบุหรี่กับน้ำยา น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าถูกกว่ามาก ปกติผมดูดวันละซอง-ซองครึ่ง ค่าบุหรี่เดือนละ 2500-3000 แต่บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาขวดละ 150 1ขวดใช้ได้เกิน 1 อาทิตย์ ตอนนี้ดูดให้ตายค่าน้ำยาก็ไม่เกิน 600

4.  หลังหันมาดูดบุหรี่ไฟฟ้า จะรู้สึกได้ว่าการหายใจ หรืออาการไอ(ถ้ามี)ดีขึ้น

5.  ไม่รบกวนคนรอบข้างเพราะไม่เหม็น ส่วนใหญ่บอกหอมด้วยซ้ำเพราะจะดูดรสผลไม้ ชอคโกแลต คาราเมล ฯลฯ กันซะส่วนใหญ่

ข้อเสีย

1.  ค่าอุปกรณ์เริ่มต้นค่อนข้างสูง ตั้งแต่พันนิด ๆ ไปจนถึง3000 แล้วแต่จะจัดชุด (แต่ไม่เกิน2เดือนก็คืนทุนแล้วเพราะลงทุนแค่ตอนแรก หลังจากนั้นก็มีแค่ค่าน้ำยากับหัวอะตอม

2.  บุหรี่ไฟฟ้า ต้องมีการบำรุงรักษานาน ๆ ที เช่นอาจต้องถอกมาล้างทุก 2-3อาทิตย์ หากรั่วซึมก็ต้องถอดมาเช็ดบ้าง และหัวอะตอม (หัวที่ต้มน้ำยาให้เป็นควัน) อาจต้องเปลี่ยนทุก 1-2เดือน

3.  ข้อนี้สำคัญมากและมักเป็นข้ออ้างของหลาย ๆ คนที่จะกลับไปสูบบุหรี่แบบเดิม แม้ว่าน้ำยาจะบอกว่ามีกลิ่นบุหรี่ยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ด้วย แต่จากที่ลองมาบอกได้เลยว่าไม่เหมือนครับ ยังไงก็ไม่เหมือน ส่วนที่ดูด ๆ กันจะเป็นรสผลไม้ซะมาก แรก ๆ มันจะไม่ชิน อย่างเช่นผม เรื่องอาการอยากบุหรี่เพราะขาดนิโคตินตัดไปได้เพราะมันมีนิโคตินอยู่แล้ว แต่ที่ลำบากหน่อยคือหลังกินข้าว มันจะยังชินกับรสบุหรี่เดิมอยู่ พอเปลี่ยนรสมาดูดไฟฟ้า มันไม่ชิน มันจะยังรู้สึกอยากอยู่ ซึ่งนี่คือความเคยชิน 1 ในสิ่งที่ทำให้เราเลิกไม่ได้นั่นเอง

4.  แรก ๆ ที่เปลี่ยนมาไฟฟ้า จะแสบคอ เป็นทุกคนครับไม่ต้องกลัวเพราะมันเหมือนเราหัดดูดบุหรี่ใหม่ อันนี้มันเป็นสารคนละตัวกัน ต้องหัดใหม่ แต่ 5 วัน-2 อาทิตย์ก็จะชินไปเอง